วันพุธที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2551

วิธีการสมัคร K-WEBCARD กสิกรไทย

วิธีการสมัคร K-WEBCARD กสิกรไทย
---------------------------------------------------------------------------------------
K-Web Card
K-Web Card บัตร virtual visa card ของธนาคารกสิกรไทย

K-Web Shopping Card หรือ K-Web Card (ชื่อเก่าคือ E-Web Card) เป็นบัตรซื้อสินค้าทางอินเทอร์เน็ตของกสิกรไทย ที่ทางกสิกรไทยเค้าออกให้ผู้ถือบัญชีกสิกรไทยได้ใช้ง่ายๆ ไม่ต้องใช้เอกสารอะไรวุ่นวาย สามารถเปิดใช้ได้ง่าย และรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังได้ผ่านการรับรองความปลอดภัยเรียบร้อยแล้วครับ

การทำบัตร K-Web Card
เงื่อนไขการใช้บริการ

มีบัญชีเงินฝากของธนาคาร กสิกรไทย
เป็นสมาชิก K-Cyber Banking

ค่าธรรมเนียม
ค่าธรรมเนียมรายปี 200 บาท
พิเศษ ฟรีค่าธรรมเนียมรายปี (ปีแรก) 
เมื่อ สมัครตั้งแต่วันนี้-ธันวาคม 2551 

ค่าใช้จ่ายในการมี K-Web Card 
+ค่าเปิดบัญชีธนาคาร ฟรี
+ค่าบัตร ATM 200-300 บาท (ไม่ทำก็ได้)
+ค่าเปิดใช้ K-Cyber Banking ฟรี
+ค่าเปิดใช้ K-Web Card ฟรี 
+ฝากเงินในบัญชี ควรมีเงินฝากติดบัญชี ซัก 500 บาท นะครับ 
ยอดรวม 500-800 บาท

บริการทำธุรกรรมผ่านเนต เช่น โอนเงิน, ชำระเงิน, ดูรายการเคลื่อนไหว โดยไม่ต้องไปธนาคาร เรียกว่า 
ธนาคารออนไลน์ ของธนาคารกสิกรไทย เรียกว่า K-Cyber Banking

 
วิธีทำบัตร K-Web Card
วิธีทำโดยละเอียด
ไปธนาคาร ทำสองข้อดังนี้ 
1. เปิดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ที่ธนาคาร (ใช้บัตรประชาชน) 
**ถ้ามีบัญชีอยู่แล้ว ก็ให้นำสมุดบัญชี กับบัตรประชาชน ไปทำข้อ 2 ได้เลย (ทำสาขาไหนก็ได้)

** ฝากเงินประมาณ 500 บาท เผื่อเหลือเผื่อ
ขาดเอาไว้นะครับ

2. บอกเจ้าหน้าที่ธนาคารว่า ขอเปิดใช้บริการ K-Cyber Banking (เค-ไซเบอร์-แบ้งกิ้ง) ด้วยครับ 
เค้าจะเอาแบบฟอร์มอีกใบให้กรอกนะครับ ตอนนี้ก็กรอกอีเมล และเบอร์โทรที่ใช้ประจำ นะครับ สำคัญมาก

เสร็จแล้ว ก็กลับมาที่บ้าน รออีเมลจากธนาคารประมาณ 1 วัน จะมีอีเมล 2 ฉบับ ซึ่ง จะมี รหัส PIN สำหรับใช้บริการ K-Cyber Banking
เมื่อได้รับอีเมลแล้ว ก็จะเริ่มทำ K-Web Card ที่เราต้องการได้เลยครับ

หลังจากนี้ จะเป็นการสมัครที่เหลือ ผ่านอินเตอร์เน็ตทั้งหมดนะครับ ดูวิธีการต่อด้านล่างได้เลยครับ

 
 
 
 
การเปิดใช้ K-Cyber Banking ครั้งแรก

1. เข้าเว็บไซต์ https://ebank.kasikornbank.com/kcyber/login_th.html
*ระวังพิมพ์ผิด ไปเข้าเวปปลอมนะครับ ดู http ต้องเป็น https ครับ

เลือก ระบบภาษา เป็นภาษาไทย ตามภาพ
ชื่อผู้ใช้งาน พิมพ์ ..........(หมายเลขบัญชีธนาคาารของคุณ)
รหัสผ่าน พิมพ์ ............(หมายเลข PIN 1 ที่ธนาคารให้มา)
คลิก เข้าสู่ระบบ

2. อ่านเงื่อนไข ตามภาพ แล้ว ก็กด ปุ่ม ยอมรับ
 

3. กรอกรายละเอียด

กำหนดชื่อผู้ใช้งาน
ชื่อผู้ใช้งาน พิมพ์ ชื่อที่เราต้องการใช้ Login กำหนด 6-8 ตัวอักษร โดย เป็นตัวอักษรทั้งหมด,ตัวเลขทั้งหมด หรือ ผสมกันก็ได้ครับ
ยืนยันผู้ใช้งานอีกครั้ง พิมพ์ เหมือนเดิมอีกครั้งครับ

กำหนดรหัสผ่าน
รหัสผ่านเดิม พิมพ์ รหัส PIN 1
รหัสผ่านใหม่ พิมพ์ รหัส ที่เราต้องการ ให้มี 8-10 ตัวอักษร โดย เป็นตัวอักษรทั้งหมด,ตัวเลขทั้งหมด หรือ ผสมกันก็ได้ครับ
ยืนยันรหัสผ่านใหม่อีกคร้ง พิมพ์ รหัสใหม่อีกครั้งให้เหมือนกัน

*ให้เอากระดาษ-ปากกา ขึ้นมาจดชื่อผู้ใช้งาน และรหัสผ่านใหม่ เอาไว้นะครับ เพื่อกันลืม

 
 
4. ตามภาพ ตรวจดูข้อมูลของคุณว่าครบหรือไม่ โดยเฉพาะช่องที่มีเครื่องหมาย * ต้อมพิมพ์ให้ครบ
 
5. ตรวจดูข้อมูลของคุณว่าครบหรือไม่ ถ้าครบ กดปุ่ม ยืนยัน
 
 

6. ตามภาพ รหัสรักษาความปลอดภัย
รหัสรักษาความปลอดภัยใหม่ พิมพ์ รหัสความปลอดภัยที่คุณตั้งขึ้น จะต้องมี 10-12 ตัวอักษร โดย เป็นตัวอักษรทั้งหมด,ตัวเลขทั้งหมดหรือผสมกันก็ได้
ยืนยันรหัสรักษาความปลอดภัยใหม่อีกคร้ง พิมพ์ รหัสความปลอดภัยที่คุณตั้งขึ้นอีกคร้งให้เหมือนกัน

**แนะนำให้ใช้รหัส OTP โดยเลือกที่ช่องแล้วใส่หมายเลขโทรศัพท์ลงไป โดยทุกๆครั้งที่มีการทำธุรกรรมทางการเงินผ่าเว็ป จะมีการแจ้ง Password ไปที่โทรศัพท์ ทำให้เราไม่ต้องจำ แล้ว Password แต่ละครั้งก็จะไม่เหมือนกัน ดังนั้นจะปลอดภัยมาก

 
 
7. เจอหน้านี้ ก็เรียบร้อยแล้ว กับการตั้งค่าเมื่อเข้าสู่บริการครั้งแรก ทีนี้ก็กดต่อไปเลยนะครับ
 
 

8. จะเข้าสู่หน้าจอหลัก ตามภาพ นี่เป็นหน้าสมาชิกในเวปกสิกรไทยของคุณเองนะครับ ส่วนนี้แหละครับ ที่เค้าเรียกกันว่า บริการ K-Cyber Banking ที่คุณจะสามารถใช้บริการธนาคารออนไลน์ได้ โดยเฉพาะการดูรายการเคลื่อนไหวบัญชี เช่นการรับเงิน ถอนเงิน โอนเงิน ชำระเงิน ต่างๆเหล่านี้ครับ

คุณก็สามารถคลิกดูที่เมนูต่างๆได้ ลองหัดใช้ดูนะครับ

 
 
การเปิดใช้ K-Web Card 

9. หลังจากใช้ K-Cyber Banking ได้แล้ว ทีนี้เราก็จะไปทำเคเวปการ์ดกันครับ โดยคลิกที่ ออมเงิน และลงทุน ครับ
 
 
10. ตรงกลางๆ จะมีลิงค์สมัครบัตรเวปการ์ดนะครับ คลิกเลยครับ
 
 
11. ทีนี้ก็กำหนดวงเงินเลยครับ การกำหนดวงเงิน คือกำหนดว่า แต่ละเดือน เราจะจำกัดตัวเองให้ใช้เงินได้ไม่เกินกี่บาทต่อเดือน เช่น 2000 บาท หรือ 3000 บาท (เฉพาะสำหรับบัตรเคเวปการ์ดใบนี้) ถ้าหากเดือนนั้น ใช้เงินจนเต็มวงเงินแล้ว ก็จะไม่สามารถใช้เงินได้อีกครับ ในส่วนนี้ สามารถปรับเปลี่ยนได้ตลอดครับ ไม่ต้องห่วง ดังนั้น ตั้งได้ตามใจชอบเลยครับ
 
 
12. ตามภาพ อ่านเงื่อนไข และกดปุ่ม ยอมรับ
 
 
13. กรอกรหัส OTP ซึ่งจะมี SMS ส่งเข้ามือถือของคุณ ให้เอารหัสจาก SMS มากรอกครับ
 
 
14. ได้ภาพนี้ ก็แสดงว่า ขอบัตรเคเวปการ์ดเสร็จแล้ว ทีนี้ก็รอประมาณ 1 วันนะครับ ถึงจะได้เลขบัตรเคเวปการ์ด
 
 
15. หลังจากเวลาผ่านไป 1 วัน จึง Login เข้าไป ที่เว็บไซต์ของธนาคารกสิกรไทย
https://ebank.kasikornbank.com/kcyber/login_th.html 
ด้วย Username และ Password ใหม่ ที่ได้ตั้งไป
คลิกที่ ยอดเงินในบัญชี ที่เมนูด้านขวามือครับ 
 
แล้วเลือกบัญชีที่มีตัวเลข 16 หลัก (ที่ยาวๆกว่า) บัญชีนี้ คือเลขเคเวปการ์ดที่เราได้มานั่นเอง
ถ้ามี เพียง 1 บัญชี แสดงว่า ทางธนาคาร ยังไม่ได้ส่ง เลขที่ K-Web Card มาให้เรา ก็ต้องรอครับ
 
 
16. รายละเอียด ของ อีเว็บการ์ด ที่สามารถใช้ข้อมูล ไปสมัครทำธุรกิจ ได้ครับ 
cvv = หมายเลขรหัสความปลอดภัย
 
 
เท่านี้ก็เสร็จสิ้นขั้นตอนทำบัตรแล้วนะครับ ทีนี้ก็หมดปัญหาอุปสรรคในการทำธุรกิจกันแล้วนะครับ เมื่อได้เลขเคเว็บการ์ดมาเรียบร้อยแบบนี้แล้ว ก็นำไปเริ่มสมัคร PayPal กันได้เลยครับ>>
 

วิธีการสมัครบัตรบีเฟิร์ส ของธนาคารกรุงเทพ

วิธีการสมัครบัตรบีเฟิร์ส ของธนาคารกรุงเทพ
---------------------------------------------------------------------------------------
Be1st
         Be1st บัตรบีเฟิร์สเป็นบัตร ATM ของธนาคารกรุงเทพ

อีกทางเลือกหนึ่งสำหรับคนไม่มีบัตรเดรดิตครับ ก็ใช้บัตรเดบิต (atm) ของธนาคารกรุงเทพได้ ที่เป็นบัตร Be1st (บีเฟริส) เพื่อนำมาสมัคร Paypal ได้

1.เปิดบัญชีกับธนาคาร เป็นบัญชีสะสมทรัพย์ หรือกระแสรายวัน ก็ได้ครับ แล้วก็ทำบัตร Be 1st เลย เป็นบัตรเอทีเอ็มนี่แหละครับ แต่เดี๋ยวนี้สามารถนำมาใช้ซื้อของผ่านอินเตอร์เนตได้เหมือนบัตรเครดิตแล้ว

เอกสารที่ต้องเตรียม : บัตรประชาชน (หรือหนังสือเดินทาง) สามารถรอรับบัตรบีเฟริร์สที่หน้าเคาร์เตอร์ ได้ทันที 

 

  เมื่อขอทำบัตรปีเฟริสเสร็จแล้ว บอกธนาคารว่าขอสมัคร internet banking (ไอแบงค์กิ้ง)
ต่อได้เลย
 เพื่อทำธุรกรรมออนไลน์ 
เช่น เช็คยอดเงิน โอนเงิน หรือธุรกรรมอื่น ๆ ดาวน์โหลดเอกสาร
สมัครไอแบงค์กิ้ง ที่นี้ (กรอกเอกสารให้ครบถ้วนแล้วเซ็นต์ชื่อต่อหน้าเจ้าหน้าที่ธนาคาร) 

เตรียมเอกสารเพื่อขอใช้ไอแบงค์กิ้ง
โปรดนำใบสมัครที่กรอกแล้วพร้อมเอกสารดังต่อไปนี้มายังธนาคาร
  • สมุดคู่ฝาก
  • บัตรประชาชน หรือ
  • บัตรที่มีตัวเลข 13 หลักและมีรูปถ่ายที่ทางราชการออกให้    
  • หนังสือเดินทาง (กรณีเป็นชาวต่างชาติ)
  • ใบอนุญาตทำงานที่ยังไม่หมดอายุ หรือใบสำคัญถิ่นที่อยู่ (กรณีเป็นชาวต่างชาติ)

หลังจากได้รหัสผ่านจากธนาคาร ท่านสามารถเข้าระบบเพื่อจัดการธุรกรรมบัญชีของเรา
ได้ ที่นี้ (https://ibanking.bangkokbank.com/BiB/index_th.html)

ตัวอย่างบัตรปีเฟริส



Credit Card Number:
 4213358610737321
Expiration Date: 09/16
Cardholder Name:xxxxxxxxxxx
Card Security Code (CSC): 008

 
2.ขั้นตอนถัดมาคือต้องโทรไป Verified ก่อนครับ จะได้ใช้ผ่านอินเตอร์เนตได้ (Verified by Visa)
โทรไป Verified ที่ 1333 ครับ


1) โทรศัพท์มายัง บัวหลวงโฟน 1333 หรือ 0-2645-5555
2) กด 1 เพื่อเลือกภาษาไทย 
3) กด 7 เพื่อสมัครใช้บริการ Verified by Visa
4) กด 1 เพื่อทำการตั้งหมายเลขอ้างอิงสำหรับลงทะเบียน Verified by Visa
5) กดหมายเลขบัตร Be1st ของคุณ
6) กดรหัสลับส่วนตัว (รหัส ATM) ของคุณ
7) กดหมายเลขอ้างอิง 8 หลักที่คุณต้องการ
8) กดหมายเลขอ้างอิง 8 หลักของคุณอีกครั้งเพื่อทำการยืนยัน
เป็นอันเสร็จสิ้นการขอหมายเลขอ้างอิง (Reference Code)

จากนั้นระบบจะแนะนำให้คุณไปลงทะเบียนบนอินเตอร์เน็ตอีกครั้งกับหมายเลขอ้างอิง 
8 หลักที่คุณสมัครใช้กับ 1333 ที่เว็บไซต์ www.bangkokbank.com/bualuangipay


เท่านี้ก็เสร็จสิ้นขั้นตอนทำบัตรแล้วนะครับ ทีนี้ก็หมดปัญหาอุปสรรคในการทำธุรกิจกันแล้วนะครับ ก็นำไปเริ่มสมัคร PayPal กันได้เลยครับ>>

 


"Be Secure?" 
ความปลอดภัยรูปแบบใหม่สำหรับนักช้อปออนไลน์

เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้ผู้ถือบัตรธนาคารกรุงเทพในการชำระค่าสินค้าและบริการด้วยบัตรเครดิตทางอินเทอร์เน็ต ธนาคารได้พัฒนาระบบความปลอดภัยรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า "Be Secure?" เพื่อให้สามารถรองรับระบบ "Verified by Visa (VbV)" ซึ่งช่วยยืนยันตัวตนของผู้ถือบัตรได้ถูกต้องและแม่นยำยิ่งขึ้น

Be Secure? เป็นระบบมาตรฐานความปลอดภัยรูปแบบใหม่ที่ธนาคารกรุงเทพ บริษัทวีซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล และบริษัทมาสเตอร์ การ์ด อินเตอร์เนชั่นแนล ร่วมกันพัฒนาขึ้นสำหรับการชำระค่าสินค้าและบริการทางอินเทอร์เน็ตด้วยบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตให้แก่ร้านค้าในระบบออนไลน์ เพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้ถือบัตร โดยผู้ถือบัตรเครดิตและบัตรเดบิตธนาคารกรุงเทพสามารถใช้ระบบ Be Secure? ได้ กล่าวคือ

  • ผู้ถือบัตรเครดิตวีซ่าทุกประเภทและบัตรบีเฟิสต์ สามารถใช้บริการ Verified by Visa (VbV)
  • ผู้ถือบัตรเครดิตมาสเตอร์การ์ดทุกประเภท สามารถใช้บริการ MasterCard Secure Code (ผู้ถือบัตรเครดิตมาสเตอร์การ์ดทุกประเภทเริ่มใช้บริการได้ตั้งแต่ 15 เมษายน 2550)

ประโยชน์ของการสมัครใช้บริการ Be Secure?

1. เพิ่มความปลอดภัยในการชำระค่าสินค้าและบริการทางอินเทอร์เน็ตด้วยบัตรเครดิตและบัตรเดบิต ด้วยรหัส VbV/Secure Code ซึ่งผู้ถือบัตรเป็นผู้กำหนดขึ้นเอง เพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลอื่นลักลอบใช้หมายเลขบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตของคุณในการทำธุรกรรมทางอินเทอร์เน็ต
2. เพิ่มความมั่นใจด้วยการใช้รหัสส่วนตัว (PAM) ที่จะปรากฏในหน้าเว็บไซต์ขณะทำรายการ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณกำลังทำธุรกรรมกับร้านค้าที่ได้รับการรับรองจากบริษัทวีซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล และบริษัทมาสเตอร์การ์ด อินเตอร์เนชั่นแนล
3. คุณสามารถสมัครใช้บริการนี้ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น

  

การป้องกันการโดน Limited Access (โดนแบน) และวิธีการแก้ไข

การป้องกันการโดน Limited Access (โดนแบน) และวิธีการแก้ไข
---------------------------------------------------------------------------------------
การป้องกันการโดน Limted Access

Limited Access คือการจำกัดการใช้งาน PayPal (หรือการล็อคบัญชี ไม่ให้ใช้งาน) เนื่องจาก PayPal พบว่า คุณเป็นบุคคลน่าสงสัย ไม่มีข้อมูลที่ยืนยันตัวตนได้จริง ใครที่โดน PayPal ล็อค account แบบนี้แล้ว เป็นเหมือนฝันร้ายเลยทีเดียว

Limited Access เกิดจากการที่เพพาลพยายามที่จะไปดึงเงินจากธนาคารกรุงเทพของคุณมา ใช้ ซึ่งไม่สามารถทำได้เนื่องจากบัญชีของคุณเป็นบัญชีที่เมืองไทย ดังนั้นเมื่อคุณชำระเงินโดยใช้เพพาล ให้แน่ใจว่าในบัญชีเพพาลของคุณมีเงินเพียงพอหรือว่าให้เพพาลไปดึงเงินมากจากบัตรเครดิต หรือเดบิตที่คุณลงทะเบียนไว้กับเพพาล ห้ามไปดึงเงินมาจากบัญชีธนาคารโดยเด็ดขาด 

พอโดน Limited Access แล้ว แก้ปัญหาจนปวดหัว ดังนั้น กันไว้ก่อนครับ

 
วิธีป้องกันไม่ให้ Paypal ดึงเงินเราจากบัญชีธนาคาร
 

ไปที่ Profile ครับ แล้วในส่วนของ Financial Information นะครับ คลิกที่ Recurring  Payments ครับ

1.ให้ Login เข้าบัญชี Paypal
2. ให้ไปที่ Edit Profiles
 
3. ไปที่หัวข้อ Finance Information
4. เลือก Recurring Payments
 
 
4. ไปที่ Edit Funding Options
 

*หมายเหตุ: ในขั้นตอนนี้ทำเพื่อไม่ให้ทาง PayPal ทำการดึงเงินออกจากธนาคารกรุงเทพ
และให้ไปดำเนินการดึงเงินจากบัตรเครดิตเราแทน เพราะ PayPal นั้นอันดับ 1 เขาจะ
ขอไปดึงเงินจากธนาคาร

สำหรับใครที่โดน 
Limited Access ไปแล้วนะครับ ให้เตรียมเอกสารดังนี้ครับ

1. สำเนาบัตรประชาชน พาสปอร์ต สำเนาทะเบียนบ้านที่มีชื่อที่อยู่เราตามที่ให้ไว้กับ 
PayPal
2. 
สำเนาหน้าบัญชีธนาคารที่ให้ไว้กับ PayPal
3. Statement บัญชีธนาคารที่มีชื่อ ทีอยู่เรา ของบัญชีที่เราให้ไว้กับ PayPal
4. 
ใบเสร็จค่าน้ำค่าไฟ ที่มีชื่อ ที่อยู่เรา
5. ปริ๊น 
Cover Sheet จากหน้า PayPal ของเรา

เตรียมเอกสารเหล่านี้ให้มากที่สุดเท่าที่มี แล้วทำตามขั้นตอนที่ PayPal บอกในหน้าเวปครับ

 
วิธีการแก้ Limited Access แบบที่ 1
 
1. ให้ Login เข้าระบบ
2. เลือกที่ Auction Tools
 
 
3. จะเข้าหน้าเอกสารที่จะต้องส่งไปให้ Paypal เพื่อแก้การโดน Limited Access (แก้การโดนแบน)
 
 
4. ให้เราส่งเอกสารที่ Paypal ร้องขอมาให้ครบ โดยอัพโหลดเอกสารที่หน้าเวบ Paypal นะครับ
 
วิธีการแก้ Limited Access วิธีที่ 2
 
การแก้ Limited Access โดยการส่ง Fax เอกสารหรือโทรไปที่ต่างประเทศ สำหรับคนที่เก่งภาษาสามารถเลือกวิธีการนี้ได้เลยครับ
กรุณาจัดส่งเอกสารไปตามที่เขาต้องการโดยมีดังต่อไปนี้

1. สแกนหน้ายอดเงินของสมุดบุ๊คแบงค์
2. บิลค่าน้ำไฟ หรือ บิลค่าอินเทอร์เน็ท ที่มีชื่อเรา
3. สำเนาทะเบียนบ้าน หรือ บัตรประชาชน เพื่อยืนยันที่อยู่ของเรา
4. ปริ๊นซ์ Covert Sheet ที่ PayPal ให้เขียนเหตุผลลงไป ตัวอย่าง
“I send my information already. Please check my account. Thank a lot.”

ส่ง Fax ไปที่เบอร์ +1-402-537-5731 (ดูเบอร์ Fax จาก Covert Sheet เป็นหลัก)

ก็เลยได้โทรศัพท์ไปหา PayPal ที่สิงค์โปร์ ติดต่อที่ 65-6510-4650 เมื่อโทรติดให้กด 1 เพื่อเข้าสู่ภาษาอังกฤษ จากนั้นให้กด 5 เพื่อเข้าสู่ Zone Resolution Center และกด 1 เพื่อติดต่อเจ้าหน้าที่ ก็จะมีเจ้าหน้าที่สอบถามเรา โดยเราจะต้องตอบ

- อีเมลของเรา
- ชื่อจริง ภาษาอังกฤษ
- เบอร์โทรศัพท์ที่ลงใน PayPal
- เลข 4 ตัวหลังของบัตรเครดิต

จากนั้นเขาก็จะบอกปัญหาที่เกิดขึ้นกับ Account ของเรา พอเขาพูดหยุดปั๊บ ก็บอกเขาเลยว่า

"I attach file to you already and need to you help my account because it had problem with my business. I can not run anything"

แล้วเจ้าหน้าที่จะบอกว่า จะตามเรื่องให้ และให้เราส่งเมล์ไปแจ้งอีกรอบครับ วิธีการนี้เป็นการปลดล็อคแบบรวดเร็วครับ


การโอนเงินระหว่าง Paypal ต่อ Paypal

การโอนเงินระหว่าง Paypal ต่อ Paypal
---------------------------------------------------------------------------------------
1. Login เข้าระบบ Paypal
 
 
2. กด Send Money
 
 
2. ป้อนรายละเอียด
 
 
3. ตรวจสอบรายละเอียดก่อนโอน
 
4. การโอนเงินของท่านเรียบร้อยแล้วครับ
 

เพิ่มบัญชีธนาคารและโอนเงินเข้าบัญชีในไทย

เพิ่มบัญชีธนาคารและโอนเงินเข้าบัญชีในไทย
 
-
ขั้นแรก เราต้องแอดบัญชีธนาคารเข้าไปก่อนครับ โดยจะเลือกบัญชีธนาคารไหนๆ ก็ได้ ที่เราต้องการ
-
 วิธีการใส่บัญชีธนาคารก็ง่ายมากครับ 
Log in เข้าไปที่ www.paypal.com ก่อนเลยครับ (กรอกอีเมล์ และ รหัสผ่าน)
 
 หลังจากเข้าระบบแล้วให้คลิ๊ก edit profiles 
 

 
   
 ให้เลือกที่ช่อง Financial Information (ช่องกลาง) 
   
 
 
   
 
 
   
 
 
   
 
 
   
 
เพิ่มธนาคารในระบบเรียบร้อยแล้ว
 
   
 ขั้นต่อมา คือการถอนเงินครับ 
 การถอนเงินก็ง่ายมากถึงมากที่สุดครับ ก่อนอื่นก็ คลิกที่ Withdraw แล้วคลิกที่ Transfer funds to your bank account เพื่อระบุจำนวนเงินที่จะถอนเงิน ออกจากบัญชี Paypal เข้าบัญชีธนาคารของเรา 
   
 
 
   
 กรอกจำนวนเงินที่ต้องการจะถอน กด Continue และกด Submit ก็เป็นอันเสร็จ 
ค่าธรรมเนียมในการถอนเงิน ถ้าต่ำกว่า 5,000 บาท จะคิดค่าธรรมเนียม 50 บาท แต่ถ้ามากกว่า 5,000 บาทนั้น ฟรีครับ
 
   
 
 
   
 

ประมาณ 5-7 วัน ทำการ เงินเข้าบัญชีของเราครับ 
กรณีนี้เหมาะกับการถอนเงินจำนวนน้อยๆครับ ช่วงเงินไม่เกิน 400-500 เหรียญครับ (แล้วแต่อัตราแลกเปลี่ยนแต่ละช่วง) แต่ถ้ามากกว่านี้ ควรจะถอนด้วยวิธีแบบประหยัด เพราะอะไรนั้น มาดูการถอนเงินให้ประหยัดกันดีกว่าครับ

*ถอนบ่อยๆ เปลืองกว่าถอนทีละเยอะๆครับ แต่ก็ต้องทยอยถอนออกครับ จะได้ไม่เจอปัญหา limited access ถ้าหากเงินใน account มีไม่มากก็ไม่เป็นไรครับ แต่อย่าดองเงินเอาไว้เป็นหมื่นๆเหรียญ อันตรายครับ (เงินถึง 1-2 พันเหรียญก็ทยอยถอนออกได้แล้วครับ)

การเข้าระบบและการเปลี่ยนรหัสผ่านใน Paypal

การเข้าระบบและการเปลี่ยนรหัสผ่านใน Paypal
 
*** เพื่อความปลอดภัยของบัญชีคุณ ควรเปลี่ยนรหัสผ่านอย่างน้อยเดือนละ 1-2 ครั้ง ***
-------------------------------------------------------------
เนื่องจากขณะนี้มีเวบหลอกหลวงที่หน้าตาคล้าย Paypal จำนวนมาก ที่หลอกให้เราป้อนข้อมูล 
และเวบเหล่านั้นจะเข้าไปโจรกรรมเงินในบัญชี Paypal ถ้าเราเผลอป้อนข้อมูลเข้าไป เพื่อความปลอดภัย
บัญชีของคุณ ให้สังเกต ดังนี้
 
1. เข้า www.paypal.com ให้สังเกตดูที่ Adress Bar ว่ามีระบบความปลอดภัยหรือไม่ <รูปภาพ>

 
 
*** เพื่อความปลอดภัยของบัญชีคุณ ควรเปลี่ยนรหัสผ่านอย่างน้อยเดือนละ 1-2 ครั้ง ***


เพื่อความปลอดภัย Paypal ได้เตรียมระบบที่ในการเปลี่ยนรหัสผ่าน 2 ขั้นตอน ถ้าเปลี่ยนบ่อยระบบจะให้เข้าสู่ขั้นตอนที่ 2 
 แต่ถ้านาน ๆ เปลี่ยนครั้ง ระบบจะให้ทำทั้ง 2 ขั้นตอน
ขั้นตอนที่ 1. เปลี่ยนคำถาม - คำตอบใหม่
ขั้นตอนที่ 2. ขั้นตอนการเปลี่ยนรหัสผ่าน
 
 
ขั้นตอนที่ 1. เปลี่ยนคำถาม - คำตอบใหม่
เข้าที่เวบ www.paypal.com
.
1. ป้อน Username (เมล์ที่ใช้สมัคร Paypal)
2. ป้อนรหัสผ่าน
.



3. กดที่ Edit profile


 
4. กดที่ Password
 
 
5. ติ๊กที่ Password
6. กด Edit
 
 
6. ระบบจะให้ยืนยันว่าคุณเป็นเจ้าของบัญชีจริงหรือไม่ โดยกำหนดคำถามมา 2 ข้อ
จากตัวอย่างข้างบน ระบบถาม 2 ข้อ (รายละเอียดส่วนนี้เป็นข้อมูลของคุณเอง)
1. รายละเอียดบัตรเครดิตลงท้าย 07 โดยให้ป้อนเลขบัตร 16 หลัก ต้องลงท้าย 07 เช่น 5434200126392007
2. บัญชีธนาคาร ลงท้ายด้วย 06 โดยให้ป้อนจำนวนเต็ม 10 หลัก เช่น 1914126360
7. กรอกครบทั้ง 2 ข้อ กด Summit
 
 
.
8 เสร็จสิ้นการเปลี่ยนระบบคำถาม-คำตอบ ความปลอดภัยขั้นที่ 1
.
ขั้นตอนที่ 2. ขั้นตอนการเปลี่ยนรหัสผ่าน
1. เข้าที่หน้าบัญชีอีกครั้งโดยกด My Account แล้วเลือก Edit profile (ข้อ 3 ข้างบน)
2. เลือกที่ Password (ข้อ 4 ข้างบน)
3. ติ๊กที่ Password กด Edit (ข้อ 5 ข้างบน)
.
Current Password ---- > รหัสผ่านเก่าที่ยังไม่เปลี่ยน
New Password ------ > ใส่รหัสผ่านใหม่ที่ต้องการเปลี่ยน
Re-enter Password -------- > ใส่รหัสผ่านใหม่อีกครั้ง
.
หลังจากนั้นให้ลอง Login รหัสใหม่
.